ผู้หญิงเริ่มดัดผมตั้งแต่เมื่อไหร่ ?

   ในปัจจุบันเทคโนโลยีในการจัดแต่งทรงผมมีมากมาย ทำให้มีทรงผมที่หลากหลาย ในตอนแรกๆ เรามักจะคิดว่า การทำให้ผมเป็นลอนเรียกว่า เป็นการดัดผมเหมือนคุณป้า แต่ความเป็นจริง ผมดัดเป็นทรงผมที่นิยมทำกันมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว
   จากหลักฐานที่บันทึกไว้ ทำให้เรารู้ว่า ผู้หญิงชาวอียิปต์เริ่มดัดผมกันตั้งแต่ 3,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช โดยการนำเอาดินเหนียวจากลุ่มแม่น้ำไนล์ มาทาที่ผมแล้วใช้กิ่งไม้ม้วน จากนั้นก็ตากแดดให้แห้ง แล้วแกะเอาดินเหนียวออก ทำให้ได้ทรงผมที่มีลักษณะเป็นลอน วิธีนี้คล้ายกับการทาน้ำยาดัดผมแล้วใช้แกนม้วนไว้ แล้วให้ความร้อน ซึ่งเป็นวิธีในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม การดัดผมแบบอียิปต์โบราณไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก
   ต่อมาในสมัยกรีกโบราณ การดัดผมลอนได้รับความนิยมมาก แต่วิธีของผู้หญิงชาวกรีกจะแตกต่างจากชาวอียิปต์ โดยผู้หญิงชาวกรีกโบราณจะใช้วิธีการถักเปียทิ้งไว้ แล้วค่อยคลายออกมา
   ในปี ค.ศ.1875 มาร์แชล ชาสฝรั่งเศสได้คิดวิธีการดัดผมโดยการเอาแท่งเหล็กมาเผาไฟ แล้วม้วนผมให้เป็นลอน แต่ข้อเสีย คือ ลอนที่ทำนั้นจะอยู่ไม่ทน หลังจากนั้น การใช้ไฟฟ้าความร้อนเริ่มได้รับเป็นที่นิยมมากขึ้น
   เข้าสู่แฟชั่นผมยุค “วิคตอเรีย” อันเป็นยุคที่เริ่มต้นตั้งแต่ ปีค.ศ.1900 เป็นต้นไป ก่อนหน้านี้ผู้หญิงมักจะไว้ผมยาว แล้วรวบเกล้าขึ้นบนกลางศีรษะ ปล่อยปลายผมลงมาเล็กน้อยให้ปลายผมหยิกฟูเป็นลอน เน้นให้เห็นต้นคอยาวระหง
ในปี ค.ศ.1904 นี้เองมีการดัดผมเป็นลอนแบบถาวรเกิดขึ้นครั้งแรกที่ประเทศอังกฤษด้วย





   สปิกแมน ชาวอังกฤษ ได้คิดค้นน้ำยาดัดผมสำเร็จในปี ค.ศ.1936 ทำให้การดัดผมเป็นแฟชั่นยอดนิยม
   คนสมัยก่อนนั้นใช้เหล็กร้อนในการดัดลอนผม เครื่องมือชนิดนี้เรียกว่า Curling iron ซึ่งเป็นต้นแบบของแท่งม้วนผมไฟฟ้าในยุคปัจจุบัน แท่งม้วนผมในสมัยนั้นนั้นมักจะทำจากเหล็ก และต่อมาเปลี่ยนเป็น เทฟลอน, เซรามิก, ทัวร์มาลีนโลหะ หรือไทเทเนียม ล้วนถูกปรับเปลี่ยนตามกาลเวลา หลังจากการใช้เหล็กร้อนๆนั้นยากที่จะควบคุมอุณหภูมิให้คงที่และทำให้ผมไหม้เสียมากกว่าจะทำให้ผมเป็นลอนสวย

   แท่งม้วนผมไฟฟ้านั้นถูกผลิตออกขายครั้งแรกในปี 1959 โดย Rene Lelievre และยังคงถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีอุปกรณ์ม้วนผมอีกมากมายหลายแบบทั้ง โรลม้วนผม และแกนฟองน้ำม้วนผม ซึ่งสาวๆนิยมนำมาใช้กันเป็นจำนวนมากในยุคปัจจุบัน และยังสามารถม้วนผมแบบง่ายๆได้เองที่บ้านโดยไม่ง้อช่างทำผม



ที่มา : หนังสือ 65ข้อสงสัยที่ผู้หญิงอยากรู้ ผู้เขียน Shin Hyun Young
และ https://cosystylist.wordpress.com/